1.ตัวอัมมุท (Ammut)

เป็น สัตว์ประหลาดในตำนานของอียิปต์ มีหัวเป็นจระเข้ ลำตัวเป็นสิงโต และขาหลังเป็นฮิปโปโปเตมัส (เวรกรรม) ชาวอียิปต์เรียกตัวอัมมุทว่า “สัตว์ผู้กินคนตาย”
2.ตัวแบนชี (Banshee)

.ตัวบาสิลิสก์ (Basilisk)

สัตว์ เลื้อยคลานประเภทงู ตัวเล็กแต่ร้ายกาจ ลำตัวยาวเพียง 15 ซม. ลมหายใจของมันมีพิษ การสบตากับมันเพียงครั้งเดียว ตัวอาจจะกลายเป็นหิน
4.ตัวเซนทอร์ (Centaur)

สัญลักษณ์ ประจำราศีธนู เป็นสัตว์โลกเผ่าพันธุ์หนึ่ง บิดาของเซ็นทอร์ตัวแรกคือเทพเจ้าอิกซิออน เซ็นทอร์มีหลายสายพันธุ์ บ้างก็มีลำตัวและศีรษะเป็นมนุษย์อยู่บนร่างม้า บ้างก็เป็นมนุษย์ที่มีลำตัวเป็นม้า
5.ตัวเซอร์เบอร์รัส (Cerberus)

เป็น สุนัข 3 หัวที่น่ากลัวในตำนานกรีก มีหน้าที่เฝ้าประตูยมโลกไม่ให้พวกวิญญาณหนีออกไป และไม่ยอมให้คนที่ยังไม่ตายเล็ดลอดเข้ามา เซอร์เบอร์รัสมีหางเป็นมังกร เฮอร์คิวลิสเป็นจอมพลังเพียงคนเดียวที่เคยเอาชนะเซอร์เบอร์รัสได้ และนำเซอร์เบอร์รัสกลับขึ้นไปยังโลกมนุษย์อยู่พักหนึ่ง
6.ยักษ์ไซคลอปส์ (Cyclops)
เป็นยักษ์กินคนมีดวงตา 1 ดวงตรงกลางหน้าผาก ในเทพนิยายกรีก ไซคลอปส์เคยจับวีรบุรุษโอดีสซุสเอาไว้ และโอดีสซุสสามารถหลบหนีไปได้โดยการทำให้ไซคลอปส์ตาบอด
7.ตัวดัมบัลลาห์ (Damballah)

เทพเจ้างูจอมพลังในตำนานของชาววูดู ดับบัลลาห์แสดงตนในท้องฟ้าเหนือดินแดนประเทศเฮติ ในทะเลแคริบเบียน
8.เอิร์ลกิง (Erlking)

(ตัว สีขาวในรูป) เป็นก๊อบลินสัญชาติเยอรมัน ผู้เป็นพระราชาของเหล่าคนแคระ เอิร์ลกิงจะล่อลวงมนุษย์โดยเฉพาะเด็กเข้าไปในป่า แล้วฆ่าทิ้ง
9.กอร์กอน (Gorgon)
ใน เทพนิยายกรีก กอร์กอนเป็นลูกสาวทั้ง 3 ของฟอร์ซีส และเคโต ชื่อของพวกเธอคือ สทีโน ยูเรียล และที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ เมดูซ่า พวกเธอมีปีก อุ้งเล็บ และมีงูเป็นเส้นผม
10. เกรมลิน (Gremlin)
กำเนิดในสหรัฐอเมริกา มีความเป็นช่างอย่างมาก เกรมลินมักจะอาศัยอยู่กับเครื่องมือ ในเครื่องยนต์ และอุปกรณ์เครื่องใช้ แต่ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เกรมลินหันมาเป็นศัตรูกับมนุษย์เนื่องจากช่างและนักวิทยาศาสตร์เริ่มเอาความ ดีความชอบจากผลงานของมัน มันจึงสร้างปัญหาโดยการทำให้เครื่องยนต์ขัดข้อง ทั้งในเครื่องบิน ยานพาหนะ และอุปกรณ์เกี่ยวกับเครื่องยนต์อื่นๆ เกรมลินจึงถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุของปัญหาทางเทคนิคทุกอย่างที่เกิดใน ปัจจุบัน
11.ฮาร์ปี้ (Harpy)

ฮาร์ ปี้เป็นสัตว์ประหลาดที่น่าขยะแขยง ถูกพระเจ้าใช้ลงโทษอาชญากรบนโลกมนุษย์ พวกเธอเป็น 3 พี่น้องที่มีตัวเป็นนกและหัวเป็นผู้หญิง และหิวโหยตลอดเวลา ฮาร์ปี้จะลงโทษคนที่ทำผิดด้วยการขโมยอาหารของพวกเขาและทิ้งให้พวกเขาอดตาย (เหมือนอยู่ในคาบาว Lake in dusk เลย)
12.ฮิปโปกริฟ (Hippogryph)

ฮิปโปกริฟ เป็นส่วนผสมของกริฟฟอนเพศผู้ กับม้าตัวเมีย มันมีหัว ปีก และขาหน้าเป็นของกริฟฟอน และลำตัวกับขาหลังเป็นม้า มีพละกำลังสามารถเคลื่อนที่ไปในอากาศด้วยความเร็วที่น่าประหลาดใจ มันปรากฏอยู่ในตำนานหลายเรื่องของชาร์เลอมาญ ในฐานะม้าของอัศวิน
13.เซ็นทอร์ปลา (Ichthyocentaur)

เป็นเซ็นทอร์ประเภทหนึ่ง อาศัยอยู่ในทะเล มีครึ่งบนเป็นผู้ชาย มีหางเป็นของปลาโลมา และขาหน้าเป็นม้าหรือสิงโต (ตัวประหลาดจริงๆ)
14.คัปปะ (Kappa)
สัตว์ประหลาดสีเขียวน่าเกลียดน่ากลัวจากประเทศ ญี่ปุ่น มีหัวเป็นลิง และมีหลังคล้ายกระดองเต่า มันจะลากคนลงไปที่บ้านของมันในน้ำเพื่อกินเป็นอาหาร
15.เลอเพรคอน (Leprechaun)
* ขออภัยเรื่องสื่อน่ะค่ะ
ภูตตัวน้อยจากนิยายพื้นบ้านของชาวไอริช รูปลักษณ์ขี้เหร่ ใส่ชุดสีเขียว หมวกแก๊ปสีแดง และมีตำหนิบนปลายจมูก เลอเพรคอนมีชื่อเสียงทางด้านการทำรองเท้า แต่เลอเพรคอน 1 ตัวไม่เคยทำรองเท้าครบ 1 คู่ มันจะทำเพียง 1 ข้างเท่านั้น พวกมันมีนิสัยชอบแกล้งมนุษย์ แต่ถ้ามันถูกมนุษย์จับ(ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก) มันจะถูกบังคับให้เปิดเผยที่ซ่อนสมบัติ ขณะที่เลอเพรคอนนำทางเราไปยังขุมทรัพย์ เราต้องเฝ้าดูมันอย่างใกล้ชิดมากๆ เพราะหากคลาดสายตาไปเพียงเสี้ยววินาที มันก็จะหายวับไปในอากาศ
(ตัวนี้เหมือนเคยเห็นในการ์ตูน)
(ตัวนี้เหมือนเคยเห็นในการ์ตูน)
16.เลอเนียนไฮดรา (Lernaean Hydra)
สัตว์ ประหลาดน่ากลัวจากเทพนิยายกรีก มี 9 หัว ลมหายใจและกลิ่นของมันมีพิษร้ายต่อมนุษย์ถึงตายได้ หัว 8 หัวของเลอเนียนไฮดราสามารถตายได้ แต่หัวที่ 9 ไม่มีวันตาย (ในรูปมีแค่ 7 หัว )
17.คราเคน (Kraken)

สามารถ พบได้ในเทพนิยายของชาวสแกนดิเนเวียน คราเคนเป็นสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ มีหนวดขนาดมหึมาที่ยึดได้แม้แต่เรือลำที่ใหญ่ที่สุด และลากเรือรวมทั้งทุกสิ่งที่อยู่บนเรือลงสู่หลุมฝังศพใต้ท้องทะเล มันจะนอนอยู่ที่ก้นทะเลเป็นเวลานาน และจะขึ้นมาที่พื้นผิวทะเล ทำให้กะลาสีเรือมักจะเข้าใจผิดว่า โหนกนูนมากมายของคราเคนเป็นแนวเกาะเล็กๆ จึงจอดเรือบนโหนกและตั้งแคมป์ และเมื่อคราเคนดำดิ่งลงสู่ก้นทะเล เรือพร้อมกับลูกเรือทั้งหมดก็พากันจมน้ำตาย
18.แมนติคอรา (Manticora)

แมน ติคอรา พบได้ในตำนานของหมู่เกาะเวสต์อินดีส ในทะเลแคริบเบียน เป็นสิงโตที่มีส่วนหัวเป็นคน มีนัยน์ตาสีฟ้า มีปีกดั่งค้างคาว มันสามารถพ่นหนามที่เป็นพิษถึงตายได้
19.มิโนทอร์ (Minotaur)

รูป ยังกับฮีโร่สปาร์ตัน เป็นอมนุษย์ครึ่งคนครึ่งกระทิง เกิดจากตำนานบนเกาะครีต ประเทศกรีซ เป็นลูกของพระราชินีฟาซิฟาเอกับกระทิงที่โพไซดอน (เทพแห่งท้องทะเลนะ ไม่ใช่……) ส่งมาให้ ไมนอสองค์พระสวามีของราชินีมารู้เรื่องเข้าก็โกรธมาก แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ จึงสั่งให้สร้างเขาวงกตบนเกาะเพื่อเป็นที่อยู่ของลูกเลี้ยงอมนุษย์ ซึ่งชาวครีตเรียกว่า มิโนทอร์ แปลว่า โอรสแห่งไมนอส มิโนทอร์กินเนื้อมนุษย์ เพื่อหยุดยั้งไม่ให้มิโนทอร์ทิ้งเกาะครีตไปคุกคามโลก จึงมีการสังเวยด้วยเด็กผู้ชาย 7 คนและเด็กผู้หญิง 7 คนเป็นประจำทุกปี
20.ก็อบลิน
ในหนังสือ”สัตว์มหัศจรรย์ และถิ่นที่อยู่ “เขียนโดยนิวท์ สคามันเดอร์ บอกไว้ว่าในยุคแรก มีการจำแนกแบบหยาบๆไว้ว่า “สิ่งมีชีวิตที่ไม่ถือเป็นสัตว์แต่เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูง คือพวกที่เดิน 2เท้า” แต่ปรากฏว่าพวกที่เดิน2เท้ามีมากมายเช่น พิกซี่ โทรลล์ ฯลฯ แต่พวกนี้ไม่มีสติปัญญาพอที่จะสื่อสารหรือเข้าใจภาษาพูดได้ ดังนั้น ค.ศ.1811 โกรแนน สตัมป์ รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์จึงบัญญัติว่า “สิ่งมีชีวิตชั้นสูง”คือ สิ่งมีชีวิตใดๆที่มีความเฉลียวฉลาดพอที่จะเข้าใจกฎหมายของโลกเวทมนตร์ และมีส่วนในการกำหนดตัวบทกฏหมายเหล่านั้นได้” ก็อบลินก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้นเช่นกัน และก็อบลินยังฉลาด มีความสามารถในการ ดูแลธนาคารกริงกอตส์ ถ้าไม่จัดให้เขาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูง สถาบันการเงินของโลกเวทมนตร์มีอันต้องวุ่นแน่ๆ ก็อบลินไม่ใช่คนแล้วก็ไม่ใช่สัตว์ด้วย (ถึงไม่มีอยูในหนังสือสัตว์มหัศจรรย์ และถิ่นที่อยู่) แต่จัดเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูง(ตามที่กระทรวงกำหนด)มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ แคระ มีนิ้วมือ นิ้วเท้าที่ยาวมาก มีลักษณะนิสัยขี้เล่น แต่ดุร้ายบางครั้ง-หลายครั้ง เล่ห์เลี่ยมจัดจนเป็นอันตรายต่อมนุษย์เป็นอย่างมาก รอยยิ้มของก็อบลินน่ากลัวจนอาจทำให้เลือดแข็งตัวได้ง่ายๆ เสียงหัวเราะของก็อบลินสามารถทำให้นมบูด และทำให้ผลไม้ที่ยังไม่สุกหลุดร่วงจากต้นได้ พวกมันชอบก่อกวนมนุษย์ด้วยวิธีมากมาย เช่นเอาของเล็กๆไปซ่อน คว่ำแก้วนม และแกล้งเปลี่ยนป้ายบอกตามทางเพื่อให้คนหลงทางเล่นๆ ชาวตะวันตกเชื่อว่า ก็อบลินมีต้นกำเนิดอยู่ในประเทศฝรั่งเศส มักอาศัยอยู่ตามรอยแตกของหินในเทือกเขาปิเรเน่ และแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็วไปทั่วยุโรปพวกมันไม่สร้างที่พักอาศัยเป็น เรื่องเป็นราวแต่จะอยู่ตามซอกหินที่มีพืชชั้นต่ำจำพวกมอสส์ และตะไคร่น้ำ หรือไม่ก็อยู่ตามรากของไม้ยืนต้นที่มีอายุมาช้านาน และย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีที่มาทำงานที่ธนาคารกริงกอตส์จริงมั้ยล่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น